ความเดิมตอนที่แล้ว ลุยหิมะ เดินตากฝน ไปเที่ยววัด หลงทางขึ้นรถไฟผิดสาย สุดท้ายมาโผล่ที่ Sendai
Sendai หนาวมาก บอกได้แค่นี้นะ เมื่อตื่นมาพบกับหิมะกองโต นอกบ้านเย็นกว่าตู้เย็นในบ้าน หิมะสูงท่วมล้อรถ ที่จอดในลาดจอดรถ เป็นประสบการณ์แรกเลยที่เจออย่างนี้ ครั้งก่อนๆที่เคยเจอหิมะจะเจอแค่เบาๆ ตกปรอยๆ สวยๆ ถ่ายมิวสิกมาก แต่คราวนี้ตกจริงตกจัง
15 กุมภาพันธ์ 2014 ตื่นสาย ตื่นตามเจ้าของบ้าน 555
เนื่องจากสภาพอากาศเป็นใจอยากมากให้ทำตัวขี้เกียจ วันนี้เลยเริ่มต้นชีวิตสายๆ ด้วยการแวะไปเอาน้ําจิ้มซีฟู้ด ที่รุ่นพี่คนไทยคนหนึ่งที่ไปเมาด้วยกันเมื่อคืน บอกว่าจะเตรียมไว้ให้ โทรตามน้องๆคนอื่นๆที่เมาด้วยกันเมื่อคืนไม่มีใครไปด้วย วันนี้เลยไปกับ KEN แค่สองคน
วันนี้เริ่มจาก รถเมล์ที่หน้าบ้าน ไปเอาน้ำจิ้ม แล้วต่อ TAXI ไปสถานีรถไฟ รถเมล์ที่นี้ เก็บเงินเป็นตามระยะทาง จะต้องขึ้นที่ประตูหลัง แล้วระหว่างที่ขึ้น จะมีบัตรให้หยิบที่เครื่องตรงประตู เพื่อจะได้รู้ว่าเราขึ้นมาจากตรงไหน แล้วตอนจะลงก็ มองที่จอใหญ่ๆตรงหน้ารถว่า เบอร์เราขึ้นจะต้องจ่ายเท่าไหร่ แล้วจ่ายตรงตู้หยอดๆที่คนขับ มีเครื่องแลกเหรียนบนรถด้วยนะ จ่ายด้วยบัตรเติมเงินของเค้าก็ได้ แต่ SUICA ใช้ไม่ได้นะ
![]() |
เส้นทางรถไฟจาก Sendai ไปลงที่ Matsushimakaigan Station |
ต่อรถไฟจาก Sendai ไปลงที่ Matsushimakaigan Station ใช้ JR PASS ได้ไม่ต้องซื้อตั๋ว นั่งไปไม่นาน ครึ่ง ชม. ก็มาถึง ออกจากสถานี เลี้ยวซ้าย เดินตามถนนใหญ่ไปเรื่อยๆ เดินๆๆๆ ประมาณ 850 เมตร ฝ่าหิมะ และฝนตกหนักมาก จนเปียกไปครึ่งตัวได้นะ รองเท้า ของ KEN เปียกโชกเลยจำได้ แต่เพื่อของกินเราไม่เคยท้อ ระหว่างทางเดิน ถ้าเป็นช่วงอากาศดีเค้าก็จะเปิดร้าน มีของขายตลอดทาง มีร้านขายของท้องถิ่นมากมาย แต่วันนี้เงียบมาก ไม่มีคนเดินเลย คงเป็นเพราะอากาศ
เดินจนถึง Date Masamune Historical Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ ของผู้ก่อตั้งเมืองอะไรประมาณนั้น แอบชะโงกหน้าเข้าไปดูน่าสนใจอยู่ แต่ว่าคราวนี้กะว่ามากินอย่างเดียวเรื่องอะไรอย่างนี้เอาไว้ก่อนไว้มาเก็บตกอีกรอบ
![]() |
เส้นทางเดินจาก สถานี้รถไฟ ไป Date Masamune Historical Museum |
![]() |
ด้านหน้าDate Masamune Historical Museum เป็นอย่างนี้ รูปจาก Google Maps |
![]() |
ร้านอยู่ในสีเหลี่ยมสีแดง ภาพจาก google maps |
พอเจอทางเข้าพิพิธภัณฑ์ก็เดินเข้าไป เดินผ่านไป จนสุดตึก เลี้ยวขวา ข้ามถนนเล็กๆ ก็จะเจอร้านเลย กลิ่นจะมาก่อนเลย จริงๆจะได้กลิ่นตั้งแต่หน้า พิพิธภัณฑ์แล้ว ร้านเปิดถึงบ่ายก็ปิดแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฤดูด้วยหรือเปล่า ว่าหน้าร้อนจะต้องไปอีกรอบเสียหน่อยร้านนี้
อุปกรณ์ในการกิน ประกอบไปด้วย ถุงมือ 1 ข้าง ที่คีบ มีดปลายแหลม ถาดรอง ผ้ากันเปื้อน และถังใส่เปลือกอีกใบ ก่อนลงมือกินก็ ถอดเสื้อกันหนาวใส่ถุงพลาสติดแขวนไว้ก่อน แล้วก็ใส่ผ้ากันเปื้อน หลังจากนั้นเค้าจะเอาพลั่วตักหอยมาแทให้ตรงหน้า ทั้งร้านจะมีแต่กลิ่นหอยย่างตลบไปหมดเลย
พอหอยเริ่มสุกก็จะมีคนมาสอนวิธีแกะหอย ว่าต้องวางยังไง แกะท่าไหน แล้วก็จะมาช่วยแกะวางเอาไว้ให้ตอนแรกๆ พอหอยเริ่มสุกได้ที่เราก็ควักน้ําจิ้มซีฟู้ดออกมาวาง กินคู่กับหอยย่าง ข้าวผัดหอย และซุปหอย เข้ากันมากกกกกกกกกก
เสร็จสมอารมณ์หมายมากงานนี้ กินจนเปลือกเต็มถัง ที่กองอยู่ตรงหน้ากินจนหมดอิ่มพุงกาง เรอเป็นกลิ่นหอยเลย KEN บอก ค่าเสียหายคนละ 2,000++ เยน
หลังจากนี้ก็ไปออนเซนกันต่อในเมือง นั่งรถไฟกลับเข้าเมือง ระหว่างทางรถหยุดวิ่ง ประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่น อย่างเดียว KEN ช่วยแปลให้ว่ารถต้องหยุดวิ่ง เพราะหิมะ ติดกันอยู่ระหว่างทางประมาณ ชั่วโมงกว่าได้
หลังจากนี้ก็ไปออนเซนกันต่อในเมือง นั่งรถไฟกลับเข้าเมือง ระหว่างทางรถหยุดวิ่ง ประกาศเป็นภาษาญี่ปุ่น อย่างเดียว KEN ช่วยแปลให้ว่ารถต้องหยุดวิ่ง เพราะหิมะ ติดกันอยู่ระหว่างทางประมาณ ชั่วโมงกว่าได้
![]() |
หิมะบนรางก่อนขึ้นรถ / ระหว่างทางหิมะหนา / KEN หลับ / ถ่ายจากท้ายขบวน |
เย็นนนี้ไปจบกันที่ onsen ในเมือง Sendai KEN พาขึ้น TAXI ไป ได้ว่าเป็นห้างใหญ่ๆ ออกมานอกเมืองนิดนึง จำชื่อไม่ได้จริงๆ หิมะก็ตกหนักแถมมืดแล้วด้วย
การมา onsen ที่นี้เป็นเหมือน คนไปฟิตเนทเลย เพื่อนมาด้วยกัน แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน แช่น้ำคุยกัน จนพอใจ ออกมาหาของกิน แล้วก็กลับบ้าน ชิวมากๆแต่ละคนที่มา
เริ่มต้นจาก ถอดรองเท้าเก็บ เอาเหรียน 100 หยอดลงไป ล๊อกตู้แล้วเดินไปหาพนักงาน จ่ายเงิน ได้กุญแจมา แล้วก็เดินตามทาง ห้องของผู้ชาย จะเป็นผ้าสีน้ำเงิน เข้าไปก็จะมีล๊อกเกอร์อยู่ ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า...
ไม่สิ....เดียวนะ น่าจะเรียกว่าแก้ผ้ามากกว่า ถอดให้หมด ไม่ต้องมีอะไรติดตัวเลย ที่เอาติดตัวไปได้คือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ เหมือนผ้าเช็ดหน้าในยิมเท่านั้น เดินไปทำตัวอายได้บ้างเล็กน้อย แต่ไม่เท่าไหร่เพราะว่า ไม่ใส่แว่นเลยมองอะไรไม่ค่อยเห็น 555
การอาบน้ำแบบคนญี่ปุ่นจริงๆ คือ การนั่งบนเก้าอี้เล็กๆ แบบเก้าอีกซักผ้า อาบน้ำ เค้าจะไม่ยืนอาบ ก๊อกน้ำก็แสนดีมาก ไม่ต้องปรับน้ำร้อน เปิดมาอุ่นเลย อาบน้ำให้สะอาดก่อนถึงจะไปแช่ได้ ที่นี้มี่ทั้งบ่อในร่มกับกลางแจ้ง เราก็แช่ในร่มก่อน แล้วสักพักก็ออกไปกลางแจ้งกัน หิมะตกเบาๆ แช่น้ำร้อนกัน เอาผ้าผืนเล็กที่เอาเข้ามาได้ พับเล็กๆแล้วก็วางไว้บนหัว ได้อารมณ์มาญี่ปุ่มมาก ฟินมากกกกกกก
ใครนึกภาพไม่ออกไปอ่านได้ที่นี้ เซ็นโต ห้องอาบน้ำสาธารณะในประเทศญี่ปุ่น
ขากลับระหว่างทางกลับบ้านก็เลยแวะร้านขายของ เพื่อให้เข้าถึงญี่ปุ่นมากขึ้นก็ต้องจัดหนักคืนสุดท้าย เอาให้พอ :)
16 กุมภาพันธ์ 2014 วันเดินทางกลับ
ตื่นมาไม่แฮ้งค์ อันนี้เป็นข้อดีของ ASAHI อันนึงที่ทำให้ชอบเค้ามาก กินมากแค่ไหนไม่เคยแฮ้งค์เลย วันนี้เครื่องออกเย็นๆ ที่ Narita International Airport ขึ้นรถเมล์ไปสถานีรถไฟ อันนี้นะแทบเอาชีวิตไม่รอด คนแน่นมากกกกก แบบว่าได้เสียกันบนรถนี้ไม่มีใครรู้เลยนะ แถมกระเป๋าเราก็ใหญ่ด้วย
วันนี้ชินคันเซ็นไปถึงสถานีโตเกียวช้าไป ประมาณ 5 นาที เพราะว่าหิมะตกหนัก เราก็ใจไม่ดี กลัวตก N'EX เพราะว่าสถานีนี้มันใหญ่กว่าจะวิ่งลงไปอีก 2 ชั้น แต่ก็ยังวิ่งทันนะ ไปหอบอยู่ที่ชานชลา ก่อนรถมาถึง 2 นาทีได้
สุดท้ายของฝาก ของกิน ขนม มาได้ที่สนามบินทั้งหมดเลย ทั้ง ดารุมะ, KITKAT, POCKY, ROYCE, TOKYO BANANA, ฮ บังคับ, หมดไปประมาณ เกือบสองหมื่นเยน ใครจะมาแนะนำให้ซื้อข้างในถูกว่าซื้อข้างนอกเล็กน้อย
ทริปนี้ก็จบลงด้วยดี สนุกมาก ได้รู้จักญี่ปุ่นจริงๆเป็นครั้งแรก ได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานดีใจมาก เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกัน ขอบคุณ KEN มากๆที่ทำให้การเที่ยวในเซนไดสนุกมาก ไว้โอกาสหน้าจะต้องมาเก็บตกที่เซนไดอีกแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น