MELBOURNE AUS 5 – 15 เมษายน 2014 กับเงิน 50,340 บาท



ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยที่จะเขียนรีวิวจริงๆจังๆ ให้คนอื่นอ่าน อย่างมากก็แค่ถ่ายรูปแล้วก็ลงใน IG ของตัวเอง แต่หลังๆมานี้เที่ยวแยะมาก แล้วก็ได้อ่านรีวิวจากคนอื่น ไปตามลายแทงต่างๆบ้าง ก็เลยรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่อ่านแต่ของคนอื่นแต่ไม่มีน้ำใจมาเล่าเรื่องการเดินทางของตัวเองบ้าง ก็เลยตัดสินใจว่าเขียนเสียหน่อย เผื่อคนอื่นๆจะได้เอาไปใช้เป็นลายแทงบ้างครับ



ทำไมถึงไป MELBOURNE เพราะว่าไม่รู้จะไปไหนครับ ผมเคยเรียนที่นั้นอยู่มาสองปีกว่า ที่นั้นเป็นเหมือนบ้านที่ 3 ของผม ( กทม.เป็นที่ 1 เชียงใหม่เป็นที่ 2) ค่อนข้างที่จะรู้จักเมืองนี้ดีอยู่แล้ว มีเพื่อนอยู่หลายคน แล้วก็เลยอยากกลับไปหาเพื่อนๆ ไปเก็บตกสิ่งที่ยังไม่ได้ทำตอนสมัยเรียน


เล่าถึงเสียหน่อยก่อนว่า MELBOUNE เป็นเมืองทางซีกโลกใต้ สภาพอากาศจะกลับกันกับบ้านเรา คือ เราร้อนเค้าจะหนาว เดือนหนาวสุดๆคือ มิ.ย. ก็จะไปใกล้ๆศูนย์ ไม่มีหิมะตกในเมือง จะมีแต่บนเขา หน้าร้อนเค้าก็จะประมาณ ช่วงปีใหม่นี้นะร้อนแทบสุก 30+


คนที่นี้หลากหลายมาก เอเชียก็มาก ฝรั่งอิตาลีก็มาก ฝรั่งอังกฤษก็มาก การคมนาคมสะดวกมาก TRAM (รถราง), รถไฟ, บัส มีมากมาย เดินทางสะดวกมาก




ทริบนี้เดินทางอย่างไร

เดินทางด้วย AIRASIA เส้นทาง DMK → KUL → MEL จองช่วงที่เค้าลดแยะๆ ก็เลยได้ราคาที่พิเศษมากๆมา ตั๋วถูกซื้อไว้ก่อนเดินทางประมาณ 1 ปี ซื้อตอนเดือนเมษายนปี 13 เดินทาง 5-15 เมษายน 54 ที่นั่ง จาก KUL ↔ MEL เป็นที่นั่ง HOT SEATติดประตู ติดหน้าต่าง เบอร์ 35A และยังได้น้ำหนัก 20 kg. ด้วยราคาแสนถูกที่ รวมทุกอย่างแล้ว 20,230 บาท แต่ก็ต้องแลกกับการจองจนแทบจะลืมกันไปเลยทีเดียว

จองทาง www.airasia.com

นอนที่ไหน
ที่พัก 9 คืน นอนที่ budget1hotelหรือ Sleep & go หรือ อีกชื่อคือ Le Setudent 8 เป็นห้องพักเตียงเดียว 1 เตียงมีห้องน้ำใจตัว มีทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ ในห้อง พร้อมผ้าเช็ดตัว และบริการทำความสะอาดห้องทุกวัน ด้วยราคาแสนถูก 15,000 บาท จองผ่าน www.expedia.co.th


รูปนี้เอามาจากหน้า web ของโรงแรม ห้องที่พักเป็นอย่างนี้จริงๆเลย


โรงแรมนี้ทำไมถึงถูก เพราะว่าอยู่ออกมานอกเมืองหน่อย ต้องเดินทางประมาณ 30 นาที จาก CBD ห้องนอนไม่ใหม่เท่าไหร่ แต่สะอาด และไว้ใจได้ว่าอุ่นในหน้าหนาว มีครัวกลางให้ใช้ได้ มีเครื่องซักผ้า อบผ้า หยอดเหรียญ มีที่จอดรถ คนที่อยู่ด้วยก็จะเป็นนักเรียนเสียส่วนมาก หรือไม่ก็นักท่องเที่ยว อาจจะเจอคนแปลกบ้าง แต่ก็ปลอดภัย




วันเดินทาง 5 - 15 เมษายน 2014


ท่ามกลางความไม่ค่อยสงบทางการเมืองเสียเท่าไหร่ รีบตามข่าวทันทีว่า จากบ้านไปดอนเมืองจะมีการปิดถนนไหม? เครื่องออกสีโมงเย็น ก็กลัวๆเหมือนกันเลยไปมันตั้งแต่เที่ยงเสียเลย ปรากฏว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรมาก แค่ TAXI คันแรกไม่ยอมไป สงสัยจะรวยมากเลยมาขับรถเล่นจะไปแค่เส้นทางที่อยากไป คันที่สองยอมไป ก็เลย ไปถึงเร็วมาก ไปนั่งๆนอนๆกินๆ รออยู่สนามบิน เนื่องจาก AIRASIA ไม่ยอมให้ เช็คอินก่อนเครื่องออกเกิน 2 ชม ก็เลยไม่รู้จะทำไร


ระหว่างรอก็ไปแลกเงินเดินทางเซ็กราคาก็พบว่าไม่ต่างเลย ตอนแรกว่าจะไปแลกที่ประตูน้ำแต่ ทำงานยุ่งมาก เรียกได้ว่าทำกันแบบจะวินาทีสุดท้ายวันก่อนเดินทางทางนี้ยังกลับบ้านเกือบทุ่มเลย แลกงินคราวนี้ก็แลกไว้ไม่มาก เพราะว่าที่พักจ่ายไปหมดแล้ว ก็เลยแลกไปแค่ AUS$ 300 และ US$ 40 เอง จริงๆนะ


ระหว่างรอเครื่อง ก็หาของกินในสนามบิน ตามลายแทงที่เค้าว่าเป็นศูนย์อาหาร แต่หาไม่เจอเลยอดกินของถูก ก็ซื้อๆเอาตามเค้าขายอยู่


AIRASIA DMK – KUL เครื่องปกติของ airasia เค้าไม่มีอะไรตื่นเต้น Check Through ของทั้งหมดไปรับที่ MEL เลย ไม่ได้จองอาหาร จองน้ำหนัก 20 กก. ชั่งจริงแค่ 17 กก. ก็ผ่านฉลุย เพราะว่าเอากระเป๋าใบเล็กมา ใบนี้ใส่ให้ตายยังไงก็ไม่เกิน 20 กก. บินไปไม่นานก็ถึง KULหรือหลายคนเรียกสั้นๆว่า KL



Low Cost Carrier Terminal (LCCT)

แต่ที่ตื่นเต้นสุดคือ Low Cost Carrier Terminal (LCCT) ลองนึกภาพตามช้าๆนะครับ ว่าเครื่องบินจอดเสร็จ ก็เอาบันไดมาเทียบลงเครื่องไปเจอทางเดินมีหลังคา กว้างประมาณ 6 เมตร มีโซ่กั้นตรงกลางแบ่งเป็นเดินไปกับเดินกลับ เลี้ยวเลาะไปเรื่อยๆจนเข้าเทอร์มินอล ทำเอานึกว่าอยู่หมอชิต ซึ่งตอนนี้ใครไป KUL ก็จะอดได้รับประสบการณ์ตื่นเต้นนี้แล้วเพราะเค้าย้ายเทอร์มินอลแล้วนะครับ ก็เลยว่าคงไม่ต้องเล่ามากดีกว่า เพราะคงไม่ใครมีโอกาสได้ใช้อีกแล้ว 555

ระหว่างเดินไปต่อเครื่อง ได้เจอน้องคนไทยหอบของมามากมาย มาถามทางเป็นภาษาอังกฤษ แบบงง แค่ฟังก็รู้เลยว่าคนไทยชัวร์ เลยตอบเป็นภาษาไทย และบอกใ้ห้น้องมาต่อคิวไปต่อเครื่องพร้อมๆกัน คุยไปคุยมาก็พบว่า น้องเค้าจะไป sydneyแต่ตกเครื่องเมื่อวาน วันนี้เลยต้องมาขึ้น airasis ไม่เคยเดินทางคนเดียว ไม่เคยไปต่างประเทศ ช่างน่าสงสารจริงๆเลยน้องคนนี้ เลยอยู่กับน้องเค้าจนผมต้องแยกไปก่อนเพราะเครื่องไป MEL ออกก่อนเครื่องน้องเค้าประมาณ 1 ชม.





ก่อนขึ้นเครื่องเค้าเรียกตรวจ หนังสือเดินทางทีละคนอีกครั้ง ถามถึง VISA ด้วย แต่การทำVISA นี้เค้าไม่ติดลงไปแล้วก็เลยต้องเอาจดหมายที่ทางสถานทูตส่งมาให้พร้อมกับตอนคืน passport มาให้ดู ซื้อตอนแรกว่าจะไม่หยิบมาจากบ้านแล้วเชียว เพราะเดินทางคราวก่อนๆบินตรงจาก กทม ไปเลย ทั้งการบินไทย และ JETSTARไม่เคยมีคนเรียกถาม แต่จากข่าว MH370 ก็เลยหยิบมาหน่อยแล้วกันเผื่อๆ




AIRASIA X จองที่นั่งพิเศษมา แต่ดันลืมนึกไปว่าที่นั่ง 35A ตรงประตูมันจะปูดออกมา ก็เลยโดยเบียดเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่านั่งแถวอื่นมากนะ เข้าเขียนไว้ว่าห้ามนั่งตรงที่ปูดออกมา แต่ผมก็เอาเท้าไปว่างเค้าก็ไม่ว่าอะไรนะ บินคราวนี้เครื่องออกดึก 22:30 ตามเวลามาเลเซีย เลยไม่จองอาหารใดๆ กินก่อนขึ้นเครื่องมาแล้ว ก็เลยหลับแทบจะทันทีที่เครื่องเริ่มบิน หลับไม่รู้เรื่องอะไรใดๆทั้งสิ้น จนกระทั้งอีก2 ชม เครื่องจะลง ตื่นมาถ่ายรูปปีกเครื่องบินแล้วก็หลับๆตืนๆ จนเครื่องลง เป็นการบินที่สบายมาก

เครื่องใหม่ สะอาด เบาะดีมี่ที่หนีบหัว เอาหมอนไปเองก็สบายขึ้น พนักงานบริการดีตรงที่เอาใบตม. มาเสียบไว้ให้ นอกนั้นไม่รู้เพราะว่าหลับตลอดทาง 555


ลงเครื่องไป ตม.


ลงที่สนามบิน Melbourne Airport (Tullamarine ) การทำเรื่องผ่าน ตม. ก็ไม่ยาก แค่ยืนต่อคืวอันแสนจะยาวมากกก อยู่ประมาณ 1 ชม. แล้วก็ยื่น Passport ให้พร้อมยิ้มหวาน แล้วก็รับ passport ออกมาไปรับกระเป๋า ที่วนๆๆๆๆอยู่ในสายพานคงนานมากแล้ว


เมื่อก่อน หลังจากนี้เค้าจะมีช่องเขียวกับแดงตรวจกระเป๋า ช่องแดงจะมีประมาณ 10 ช่อง ช่องเขียวจะมีประมาณ 2 ช่อง เนื่องจากประเทศนี้มีข้อห้ามในการนำของเข้าประเทศแยะมาก ห้ามนม เนื้อสัตว์ เม็ดพืช ต้นไม้ ของเดินป่าที่ใช้งานแล้วยังไม่ได้ทำความสะอาด ฯลฯ ถ้าจะให้ง่ายๆคือ อย่าเอาของกินได้เข้าประเทศนี้เลย ก็จะไม่มีปัญหา ไม่เสียเวลา ที่สนามบิน แต่ๆๆๆ คราวนี้แอบแปลกใจ ช่องเขียว ช่องแดงมันหายไปไหนหมดไม่รู้ มีจนท มาคอยสุ่มถาม และก็ปล่อยผ่านไปหมดเลย







หา SIM ใหม่


ออกมาจาก ตม. แล้วเลี้ยวขาว แล้วมองหาที่ซื้อ SIM เพื่อความประหยัด ขอแนะนำ OPTUS ซื้อแบบเล่นเนท 15 วัน เล่นได้วันละ 500 mb ฟรี SMS โทรในประเทศฟรี ราคา 30$

http://www.optus.com.au/prepaid/sim-card/plans/2-dollar-days/


ผมเจอคนขายเป็นอินเดีย พูดเร็วมาก ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีน้ำใจพยายามช่วยในการเลือกโปร และการตั้งค่าต่างๆในมือถือ

เข้าเมืองด้วย SKYBUS


เรามี airport link มี sky train ที่นี้เค้ามี SKYBUS หลังจากที่ซื้อSIM เสร็จออกจากร้าน เลียวขวา ตามหาป้าย SKYBUS เพื่อเข้าเมือง รถบัสสีแดงคันยาว ขับเร็วมากแทบจะบินได้ ใครเมารถแนะนำให้ไปนั่งหน้าๆ หลังๆตรงส่วนที่พ่วงจะส่ายมากๆๆๆๆ


รถบัสคันนี้จะไม่จอดไหนเลย ไปจอดที่สถานนี้รถไฟ Southern cross station แล้วหลังจากนั้นก็จะต่อรถไฟ หรือ Tram ไปไหนก็ได้แล้วครับ


ราคา เที่ยวเดียว 18$ ไปกลับ 30$

http://www.skybus.com.au/




@ Southern Cross Station
นอนไม่เต็มอิ่มบนเครื่องยังคงง่วงๆค้างๆ หิวแทบตายละ ของกินบนเครื่องไม่มี น้ำยังไม่ได้กินเลย เพราะหลับตลอดทาง ที่สนามบินก็ไม่ได้กินอะไร ก็เลยจัด Hungry Jack ไปชุดเล็ก หลังจากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้น2 ไปซื้อตั๋วรถไฟที่นี้ใช้บัตรที่ชื่อ Myki เติมเงินเติมเที่ยว เหมือนบัตรแรบบิทบ้านเรา ผมซื้อแบบ Full Fare 7days Zone 1 หมายความว่า ขึ้นเท่าไหร่ก็ได้ 7 วัน ในโซน 1 เต็มราคา ราคาไม่แน่ใจจำไม่ได้ คุณป้าขายตั๋วพูดเร็วมาก ประมาณ 35$ ++ http://ptv.vic.gov.au/tickets/myki/



ขึ้นสาย South Morang ไปลงที่สถานี Bell ลากกระเป๋าขึ้นเขาไปอีกหน่อย 500 เมตรได้ก็จะถึงโรงแรม แต่เนื่องจากมาถึงก่อนเวลาเซ็กอินได้ก็ซวยไปนะ รออย่างเดียวทำไรไม่ได้ ห้องยังไม่เสร็จไปทำสายตาอ้อนวอนก็ไม่ได้ พนักงาน (เป็นอินเดียอีกแล้ว ตอบว่าไม่อย่างเดียว T_T) แทบจะหลับอยู่หน้าเตาผิงตรงLobby เที่ยงตรงแอบเดือนไปขอพนักงานฝรั่งอีกรอบว่า จะเป็นไปได้ไหมว่าจะขอเซ๊คอินตอนนี้ เธอก็บอกว่าห้องเสร็จพอดี จำน้ำเสียเธอได้ตอนบอกว่านอน 9 คืนเธอแอบแปลกใจ



ไปเที่ยวไหนบ้าง


เนื่องจากชิวมาก บอกตามตรง ไม่ได้ไปเที่ยวในจุดที่นักท่องเที่ยวไปกันสักเท่าไหร่ บวกกับว่าฝนตกแทบทุกวัน เนื่องจากมีพายุเข้าที่ทางตอนบนของประเทศ ความเร็วลมก็ 280 กม/ชม MELBOURNE เลยโดยหางๆฝนตกเบาๆแต่ตกมันทั้งวันอยู่เกือบอาทิตย์ ทำไรไม่ได้ แผนที่จะไป Great Ocean Road , Melbourne Zoo และ Philips Island เป็นอันล้มไปเพราะขี้เกียจไปตากฝน


เลยวันๆได้แต่อยู่ในเมืองเสียส่วนใหญ่

ไปหากาแฟกิน ที่ QV
ไปแวะเดินร้านชา T2 ที่ Melbourne central
ไปเดินเล่น IKEA ที่ Richmond
ไปยิมที่ FITNESS FIRST แทบทุกวันตอนบ่ายๆ
ไปเดินดูไฟที่ Crown Casino และริมแม่น้ำYarraแทบทุกเย็น
ไปกินข้าวเย็นกับเพื่อน 2 วัน
ไปงานสงกราต์ที่วัดไทยที่ BOX HILL
ไปกินข้าวเที่ยงที่โรงเรียนกับอาจารย์
ไป St kilda beachวันอาทิตย์มีเปิดร้านขายของริมทะเล
พยายามจะไปต่อคิว H&M เปิดใหม่แต่ไม่ไหวคนแยะมาก
MELBOURNE STAR ของเลียนแบบ LONDON EYE
Sovereign Hill, Ballarat เหมืองทองเมืองโบราณ




MELBOURNE STRA

ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่ผมว่าเสียเวลาเปล่านะ วิวไม่ได้สวยอะไรมากมาย ตื่นเต้นบ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากราคาไม่แพง เดินทางไปง่าย มีสวนสนุก เด็กๆอาจจะชอบ 

เดินทางง่ายๆ ขึ้น tram ฟรี สีแดงๆ หรือ สาย 35 หรือ70 หรือ 86 ไปลงที่ Waterfront City/Docklands Dr แล้วเดินไปอีกเล็กน้อยก็จะถึง


ราคามีหลากหลายมาก ไปดูได้ที่ http://www.melbournestar.com/






Sovereign Hill, Ballarat เหมืองทองเมืองโบราณ





อันนี้น่าสนใจจริงๆครับ แนะนำว่าใช่เวลาเต็มวันเลยถึงจะพอดี วิธีการเดินทางก็ง่าย ไปขึ้น V/LINE ที่ Southern Cross Station ขึ้นสายไป Ballarat ลงที่ สถานนี้ Ballarat ตั๋วก็ไม่ต้องซื้อ ใช้บัตร Myki ได้เลย แล้วก็นั้งตรงไหนก็ได้ในขบวนไม่ได้กำหนดที่นั่ง



พอลงจากสถานี้ก็ออกไปรอรถบัสสาย 8 หรือ 9 ก็ได้ มันจะวิ่งเป็นวงกลมสวนกัน แนะนำ ขาไปขึ้น 9 ขากลับ กลับ 8 แต่ถ้าวันเสาร์จะวิ่งแค่สาย 9 ตรวจสอบตารางเวลาและแผนที่ตรงป้ายรถอีกครั้งนะครับ ไม่ต้องซื้อตั่วใช้บัตร Myki ได้เลย

ตารางเดินรถบัสที่ Ballarat http://cdcvictoria.com.au/ballarat.html


ถ้าไปวันเสาร์ตั๋วรถไฟจะถูกกว่าวันธรรมดา วันอาทิตย์ไม่แนะนำให้ไป เพราะรถบัสที่ Ballarat วิ่งน้อย เดินขาลากแถมจะหลงได้ด้วย รถไฟก็น้อยกว่าวันอื่นๆ


ลงรถบัสที่ Sovereign Hill หรือบอกเค้าว่าลง Gold museum ก็ได้มันอยู่ตรงข้ามกันครับ ค่าเข้า Sovereign Hill และ gold museum มีหลากหลาย ผู้ใหญ่คนเดียว 48.50$ ดูราคาได้จากนี้ http://www.sovereignhill.com.au/visit/opening-times/


ที่นี้ผมว่าคุ้มมากถ่ายรูปมันมาก มันเป็นเมืองเก่า ทุกคนแต่งตัวเก่าหมด เหมือนหลุดมาจากหนัง ที่เดินเที่ยวก็มากมาย แต่เข้าไปแล้วอาจจะต้องจ่ายเงินเพิ่มถ้าจะ นั่งรถม้าชมเมือง ลงไปเที่ยวเหมืองทองใต้ดิน และที่ผมหมดไปแยะสุดคือ ขนม ของกินอร่อยมากกกกกกกก


ขากลับคำนวนเวลาดีๆนะครับ ระวังตกรถบัส แล้วจะทำให้ตกรถไฟ เที่ยวสุดท้ายกลับมา MELBOURNE ด้วย


หากใครอยากเที่ยวแบบจุใจ ก็นอนพักที่นี้เลยก็ได้มีโรงแรม












กินที่ไหนถูก





อันนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มากเลยในการกิน ผมเข้าซุปเปอร์ อย่าง COLES และ Woolworths แล้วซื้อพวก ขนมปัง ซาลามี ไส้กรอก ผัก นูเตล่า อาหารแช่แข็งสำเร็จรูป มากินเสียส่วนใหญ่ น้ำกินจากก๊อกได้เลย หรือจะซื้อเอาก็ได้ก็ไม่แพงมากนัก ไปกินร้านอาหารจริงๆจัง แค่ 3 มื้อเอง เพราะว่าไปกินกับอาจารย์ที่โรงเรียน กับไปกินกับเพื่อน




ร้าน don don เป็นร้านที่ผมกินตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เมื่อก่อนอยู่ถนน Swanston แต่ตอนนี้เค้าย้ายไปนิดนึง มาอยู่ในซอย Little Lonsdale ซอยข้างๆ MELBOURNE CENTRAL ราคากันเองมาก 5$ ก็อิ่มได้ มีข้าวราดแกงกระหรี่ญี่ปุ่นอร่อยๆถูกๆ

http://www.urbanspoon.com/r/71/1488361/restaurant/CBD/Don-Don-Melbourne







อีกร้านที่โดนเพื่อนพาไปกินคือ ChangGo ไปต่อคิวกันตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดเลย เป็นปิ้งย่างเกาหลีแบบคนเกาหลีเป็นคนบริการเลย ถ้าให้คนแนนความอร่อยก็อร่อยๆพอกับร้านปิ้งย่างแบบนี้ในกทม

http://www.urbanspoon.com/r/71/1643528/restaurant/CBD/ChangGo-Melbourne


IKEA



Queen Victoria Market

TRAM ฟรี นั่งเล่นรอบเมือง




วันที่ 15 เมษายน มาถึงเร็วมาก ไม่อยากกลับเลย รู้เท่านี้นะครับ

ค่าใช้จ่ายเที่ยวนี้


ค่าตั๋วเครื่องบิน 20,230 บาท

ค่าโรงแรม 15,000 บาท
แลกเงินไป AUS$ 300 x 29 = 8,700 บาท US$ 40 x 30 = 1,200 บาท
ไปกดเงินเพิ่ม AUS$ 200 x 29 = 5,800 บาท

MELBOURNE AUS 5 – 15 เมษายน 2014 กับเงิน 50,340 บาท

ข้อมูลเพื่อเติม

ทำวีซ่าแสนจะง่าย ไปทำที่ VFS http://vfs-au.net/Thai/ เข้าไปตามนั้น และเตรียมเอกสารตามนั้น แล้วก็ยื่น ตอนที่ทำนั้น แค่ 15 นาทีก็เสร็จ รอ 3-7 วันก็ได้ Passport คืนแล้วครับ สมัยที่ผมไปยังอยู่ที่ตึก thai cc แต่ตอนนี้เค้าย้ายไปอยู่ที่ อาคารเดอะเทรนดี้แล้ว หาไม่ยากครับ อยู่ใกล้ๆ BTS นานาครับ

ความคิดเห็น